คอร์สปูพื้นฐานด้านหุ่นยนต์และการเขียนโค้ด VEX 123 หลักสูตร 3 วัน สำหรับผู้เริ่มต้นตั้งแต่ การเขียนโปรแกรมผ่าน touch buttons coding ไปจนถึงการเขียนโปรแกรมแบบบัตรคำสั่ง (Card Programming) เพื่อควบคุมหุ่นยนต์ผ่านภารกิจสนุก ๆ เช่น Twilight, Dark Zone และ Deepsea Challenger และได้พัฒนาโค้ดด้วย VEXcode 123 (Block Coding) พร้อมฝึกแก้ปัญหาและพัฒนาทักษะการคิดเชิงตรรกะผ่านกิจกรรมที่ท้าทายและสร้างสรรค์
วันที่: 19-21 มีนาคม 2568
สถานที่: ALL Robotics อาคาร The Tara CPALL
ติดต่อสอบถามหรือสมัครเรียน คลิก https://bit.ly/3XOjonl
DAY1
10:30-11:00 Introduce VEX123 Robot
11:00-12:00 Coding with the Touch Buttons
12:00-13:00 Lunch
13:00-13:30 Start diving to the Twilight Mission (Touch Programming)
13:30-14:30 Using the VEX Coder
DAY2
10:30-11:00 VEX Coder Card Reference Guide
11:00-12:00 Break through Dark Zone Mission (VEX Coder Programming)
12:00-13:00 Lunch
13:00-13:30 Discovery the Trench Mission (VEX Coder Programming)
13:30-14:30 Using the VEXcode 123
DAY3
10:30-11:00 VEXcode 123 Block Coding Explorer
11:00-12:00 Break through Dark Zone Mission (Block Programming)
12:00-13:00 Lunch
13:00-13:30 Discovery the Trench Mission (Block Programming)
13:30-14:30 Deepsea Challenger Mission
ความเป็นมาของภารกิจ
โครงการ Deepsea Challenger เป็นโครงการที่มีชื่อเสียงซึ่งมี James Cameron ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังเป็นผู้นำในการสำรวจ จุดมุ่งหมายหลักของโครงการคือการสำรวจ "Challenger Deep" ซึ่งเป็นจุดที่ลึกที่สุดในมหาสมุทรมาเรียนาเทรนช์ การสำรวจนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาธรณีวิทยา สิ่งมีชีวิต และสภาพแวดล้อมที่อยู่ในบริเวณที่ลึกที่สุดของโลก
โครงการ Deepsea Challenger เป็นภารกิจสำรวจใต้ทะเลลึกที่มีวัตถุประสงค์หลากหลายมิติ ครอบคลุมทั้งด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การศึกษา และเศรษฐกิจ โดยมีเป้าหมายหลักดังนี้
1. การสำรวจทางวิทยาศาสตร์
การศึกษาความหลากหลายทางชีวภาพ: สำรวจและศึกษาความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตในสภาพแวดล้อมที่รุนแรงของทะเลลึก ซึ่งยังไม่เป็นที่รู้จักอีกมาก เพื่อทำความเข้าใจระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ
การศึกษาธรณีวิทยา: วิเคราะห์โครงสร้างทางธรณีวิทยาของพื้นทะเลลึก เช่น รอยแยก เปลือกโลก และภูเขาใต้ทะเล เพื่อทำความเข้าใจปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ และอาจนำไปสู่การค้นพบแหล่งทรัพยากรใหม่ๆ
การศึกษาเคมีสมุทร: ศึกษาองค์ประกอบทางเคมีของน้ำทะเลลึก ซึ่งอาจมีผลต่อสภาพอากาศและสิ่งมีชีวิตในทะเล
2. การพัฒนาเทคโนโลยี
การพัฒนาหุ่นยนต์ใต้น้ำ: สร้างและพัฒนาหุ่นยนต์ที่มีความสามารถในการทนต่อแรงกดดันสูง สภาพแวดล้อมที่มืดมิด และอุณหภูมิที่เย็นจัด เพื่อใช้ในการสำรวจ
การพัฒนาเซ็นเซอร์และอุปกรณ์: พัฒนาเซ็นเซอร์และอุปกรณ์ที่สามารถทำงานได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพในสภาพแวดล้อมที่รุนแรงของทะเลลึก
3. การสร้างแรงบันดาลใจ
การสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชน: จุดประกายความสนใจในวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ (STEM) ให้กับเยาวชน
การสร้างความตระหนัก: สร้างความตระหนักถึงความสำคัญของมหาสมุทรและสิ่งมีชีวิตในทะเล เพื่อนำไปสู่การอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน
4. ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ
การค้นพบแหล่งทรัพยากร: ค้นหาแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่อาจมีอยู่ในทะเลลึก เช่น แร่ธาตุและพลังงาน
การพัฒนาอุตสาหกรรม: กระตุ้นการพัฒนาอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ อุตสาหกรรมเซ็นเซอร์ และอุตสาหกรรมการสำรวจ
Deepsea Challenger เป็นภารกิจการแข่งขันหุ่นยนต์สำหรับเด็กภายใต้โครงการ Project Nautilus ที่มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรมหุ่นยนต์และการแก้ปัญหา โดยใช้หุ่นยนต์ VEX123 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่ายและเหมาะสำหรับเด็กอายุ 6-12 ปี ภารกิจนี้จะจำลองสถานการณ์การสำรวจใต้ทะเลลึก เพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้หลักการทำงานของหุ่นยนต์ใต้น้ำ การเขียนโปรแกรมเพื่อควบคุมการเคลื่อนที่ และการใช้เซ็นเซอร์เพื่อสำรวจสภาพแวดล้อมใต้น้ำ
Deepsea Challenger ยังส่งเสริมการเรียนรู้ STEAM (วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม ศิลปะ และคณิตศาสตร์) อย่างสนุกสนานและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเขียนโปรแกรม ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญในยุคดิจิทัล การพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรมนั้น ผู้เข้าร่วมจะได้ฝึกฝนการเขียนโปรแกรมเพื่อควบคุมหุ่นยนต์ VEX123 ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ที่ออกแบบมาให้ง่ายต่อการเรียนรู้และใช้งาน ผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้พื้นฐานการเขียนโปรแกรมแบบบล็อก (block-based programming) ซึ่งเป็นวิธีที่เหมาะสำหรับเด็กๆ ในการเริ่มต้นเรียนรู้การเขียนโปรแกรม
ภาพรวมของภารกิจคือผู้เข้าแข่งขันจะต้องเขียนโปรแกรมควบคุมการทำงานของหุ่นยนต์ VEX123 ให้สามารถเคลื่อนที่ไปได้ไกลที่สุด โดยอาศัยการทำงานร่วมกับเซนเซอร์ต่างๆในหุ่นยนต์ ซึ่งในภารกิจจะแบ่งโซนการทำภารกิจเป็นโซนต่างๆดังนี้
1. The Sunlight Zone (Epipelagic Zone):
ความลึก: 0-200 เมตร (0-656 ฟุต)
แสงแดด: เขตนี้ได้รับแสงแดดมากที่สุด จึงเป็นเขตที่มีชีวิตชีวาและมีความหลากหลายทางชีวภาพสูงที่สุดในมหาสมุทร
สิ่งมีชีวิต: เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตหลากหลายชนิด เช่น แพลงก์ตอนพืช (ซึ่งเป็นพื้นฐานของห่วงโซ่อาหาร) แพลงก์ตอนสัตว์ ปลาหลากหลายชนิด สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเล (เช่น โลมาและวาฬ) และนกทะเล แนวปะการัง ป่าสาหร่าย และสิ่งมีชีวิตคุ้นเคยอื่น ๆ ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเขตนี้
2. The Twilight Zone (Mesopelagic Zone):
ความลึก: 200-1,000 เมตร (656-3,281 ฟุต)
แสงแดด: แสงแดดส่องลงมาถึงเขตนี้เพียงเล็กน้อย ทำให้มีแสงสลัวคล้ายแสงสนธยา
สิ่งมีชีวิต: สัตว์ที่อาศัยอยู่ในเขตนี้มีลักษณะพิเศษที่ช่วยให้พวกมันอยู่รอดได้ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อย หลายชนิดมีแสงเรืองแสงในตัวเอง ซึ่งใช้สำหรับล่าเหยื่อ ดึงดูดคู่ หรือป้องกันตัว ปลาแองเกลอร์ ปลาขวาน และปลาหมึกหลายชนิดเป็นตัวอย่างของสัตว์ที่อาศัยอยู่ในเขตนี้ สัตว์หลายชนิดจะอพยพขึ้นสู่ผิวน้ำในเวลากลางคืนเพื่อหาอาหาร
3. The Midnight Zone (Bathypelagic Zone):
ความลึก: 1,000-4,000 เมตร (3,281-13,123 ฟุต)
แสงแดด: ไม่มีแสงแดดส่องลงมาถึงเขตนี้ ทำให้มืดสนิท เย็นจัด และอยู่ภายใต้แรงกดดันมหาศาล
สิ่งมีชีวิต: สิ่งมีชีวิตในเขตนี้มีน้อยและแปลกประหลาด สัตว์มักจะมีดวงตาขนาดใหญ่ (เพื่อจับแสงสลัว ๆ) หรือตาบอด หลายชนิดมีแสงเรืองแสงในตัวเอง พวกมันมักจะกิน "หิมะทะเล" (สารอินทรีย์ที่ลอยลงมาจากเขตด้านบน) หรือล่าเหยื่อซึ่งกันและกัน ปลาไหลกัลเปอร์และปลาหมึกแวมไพร์เป็นตัวอย่างของสัตว์ที่อาศัยอยู่ในเขตนี้
4. The Abyssal Zone (Abyssopelagic Zone):
ความลึก: 4,000-6,000 เมตร (13,123-19,685 ฟุต)
แสงแดด: มืดสนิท มีแรงกดดันมหาศาล และอุณหภูมิใกล้จุดเยือกแข็ง
สิ่งมีชีวิต: สิ่งมีชีวิตในเขตนี้หายากและมีความพิเศษสูง สัตว์มักจะตาบอด สีซีด และเคลื่อนที่ช้า พวกมันมักจะพึ่งพาการสังเคราะห์ทางเคมี (การผลิตพลังงานจากสารเคมี) มากกว่าการสังเคราะห์ด้วยแสง ตัวอย่างเช่น ปลาแองเกลอร์ทะเลลึกและปลิงทะเล
5. The Trenches (Hadal Zone):
ความลึก: ต่ำกว่า 6,000 เมตร (19,685 ฟุต) พบในร่องลึกใต้ทะเล
แสงแดด: มืดสนิท มีแรงกดดันมากที่สุด และอุณหภูมิเย็นจัด
สิ่งมีชีวิต: เขตนี้เป็นส่วนที่ลึกที่สุดของมหาสมุทร และสิ่งมีชีวิตที่นี่มีความพิเศษอย่างยิ่งในการอยู่รอดในสภาวะที่รุนแรง สัตว์มักจะมีขนาดเล็ก และหลายชนิดเป็นสัตว์กินของเน่าหรือเศษอินทรีย์ ตัวอย่างเช่น หอยทากใต้ทะเลลึกและแบคทีเรียบางชนิด ร่องลึกมาเรียนา ซึ่งเป็นส่วนที่ลึกที่สุดของมหาสมุทรอยู่ในเขตนี้